BALAC CU ต่างกับ BAS TU อย่างไร?

Table of Contents

สวัสดีค่ะน้องๆ หลังจากที่เราได้คุยกันถึงหลักสูตรอินเตอร์ว่าจะต้องเตรียมตัวอย่างไรคร่าวๆ ไปแล้ว น้องๆ อาจจะเริ่มมีความสนใจและได้ไปศึกษาความสนใจของตัวเอง หลายๆ คน อาจจะกำลังสนใจหลักสูตรที่เกี่ยวข้องกับมนุษย์และภาษา ซึ่งถ้าพูดถึงหลักสูตรอินเตอร์แล้ว ก็คงไม่พ้น BAS TU และ BALAC CU แต่น้องๆ อาจจะยังไม่เห็นภาพว่า แล้ว 2 หลักสูตรนี้ มีความเหมือนและแตกต่างกันอย่างไร แล้วเราเหมาะกับหลักสูตรไหน วันนี้พี่จะพาน้องๆ ไปชมกันว่าทั้ง 2 หลักสูตร ต่างมหาวิทยาลัย แตกต่างกันอย่างไร ทั้งตัวรายละเอียดการเรียน สังคมและกิจกรรม รวมถึงการสอบเข้ากันค่ะ

หลักสูตรปริญญาบัณฑิต

BAS TU: Bachelor of Arts in British and American Studies (คณะศิลปศาสตร์หลักสูตรอังกฤษ-อเมริกันศึกษา)

BALAC CU: Bachelor of Arts in Language and Culture (คณะอักษรศาสตร์ เอกภาษาและวัฒนธรรม หลักสูตรนานาชาติ)

มหาวิทยาลัย

BAS TU : มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์

BALAC CU : จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

ค่าเทอม

BAS TU: 65,000 บาทต่อ 1 เทอม

BALAC CU: 91,000 บาทต่อ 1 เทอม

รายละเอียดหลักสูตร

BAS TU

– เป็นหลักสูตรที่มีเพื่อสร้างบัณฑิตที่มีความรู้และความเข้าใจรอบด้านเกี่ยวกับประเทศอังกฤษและสหรัฐอเมริกา ซึ่งถือเป็น 2 ประเทศมหาอำนาจที่มีอิทธิพลที่สำคัญต่อเศรษฐกิจและสังคมโลก ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน โดยประเทศไทยเองก็ได้รับอิทธิพลในด้านต่างๆ มาจาก 2 ประเทศนี้ไม่มากก็น้อย ดังนั้นหลักสูตรนี้จึงมีมาเพื่อตอบโจทย์เพื่อให้เรียนรู้และเข้าใจหลักการทางความคิด และอิทธิพลต่างๆของ 2 ประเทศนี้เพื่อจะได้นำไปปรับใช้ในสายอาชีพในอนาคต

– ในหลักสูตร ได้จัดให้มีการเรียนการสอนที่ครอบคลุมถึงศาสตร์ด้านต่างๆ ที่มีอิทธิพลและเกิดขึ้นในทั้ง 2 ประเทศ เช่น ประวัติศาสตร์ สังคม วัฒนธรรม วรรณกรรม เศรษฐกิจ การเมืองการปกครอง รวมถึงอิทธิพลที่ทั้ง 2 ประเทศมีต่อโลก

– นอกจากการเรียนการสอนในห้องเรียน ที่จะเป็นรูปแบบบูรณาการเพื่อให้นักศึกษาได้มีส่วนร่วมในด้านต่างๆ นักศึกษาจะได้มีการได้เรียนรู้ผ่านการเรียนในห้องบรรยาย และยังได้เรียนรู้ผ่านการอภิปราย แลกเปลี่ยนความคิดเห็นในห้องเรียน

– นอกจากนี้แล้ว ในหลักสูตรนี้จะมีการเปิดโอกาสให้ นักศึกษาได้ไปศึกษาดูงานในหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับประเทศอังกฤษและสหรัฐอเมริกา ในและต่างประเทศ ทำให้น้องๆ สามารถเรียนรู้เกี่ยวกับสิ่งเหล่านี้นอกห้องเรียนได้อีกด้วย

– รวมถึงมีการเปิดโอกาสให้ นักศึกษาสามารถเลือกเรียน Exchange Program

– โดยสำหรับนักศึกษาชั้นปีที่ 3 สามารถเลือก Exchange Program เพื่อไปเรียนที่ต่างประเทศได้ 1 ปี โดยสามาารถโอนหน่วยกิตกลับมายังประเทศไทยได้หากเป้นมหาวิทยาลัยคู่สัญญา

BALAC CU

– เป็นหลักสูตรที่มุ่งเน้นสร้างบัณฑิตที่มีความรู้และความเข้าใจรอบด้านเกี่ยวกับวัฒนธรรม รากฐานความเป็นมาของมนุษย์ (cultural study) ควบคู่ไปกับความรู้ด้านภาษา โดยหลักสูตรนี้มีมาเพื่อตอบโจทย์ตลาดงานของโลกที่มีความเป็น global มากขึ้น โดยบัณฑิตจะสามารถนำความรู้ ความเข้าใจเพื่อปรับใช้ในอาชีพการทำงานที่มีการปฏิสัมพันธ์กับผู้คนที่มีภูมิหลังที่แตกต่างกัน

– ในหลักสูตร น้องๆ จะได้มีโอกาสเรียนรู้ศาสตร์ต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง เช่น ประวัติศาสตร์ วัฒนธรรมโลก การเมืองการปกครอง เพศสภาพ อาหาร รวมไปถึงน้องๆ จะมีโอกาสได้เลือกวิชาโท ที่สนใจ นั่นคือ

– Third Languages โดยน้องๆ จะสามารถเลือกเรียนภาษาใดภาษาหนึ่ง ได้แก่ ภาษาจีน ภาษาญี่ปุ่น ภาษาฝรั่งเศส ภาษาสเปน และอื่นๆ

– Media study ซึ่งจะเป็นการศึกษาเกี่ยวกับสื่อในทุกๆ ด้าน ที่เชื่อมโยงให้เห็นความเป็นวัฒนธรรมและความเป็นมา เช่น ภาพยนตร์ ดนตรี วรรณกรรม เป็นต้น

– Global study ซึ่งจะเป็นการศึกษาเกี่ยวกับโลกาภิวัฒน์ เช่น รูปแบบวัฒนธรรมโลก ความเปลี่ยนแปลงจากยุคการล่าอาณานิคม ประเด็นข้ามชาติต่างๆ เป็นต้น

– นอกจากการบรรยายในห้องเรียนแล้ว น้องๆ จะยังได้มีโอกาสได้เรียนรู้ผ่านการอภิปราย แลกเปลี่ยนความคิดเห็นในห้องเรียน โดยใน BALAC การแลกเปลี่ยนความคิดเห็นต่อ 1 ประเด็น เป็นเรื่องที่ทางหลักสูตรให้ความสำคัญอย่างมาก

– น้องๆ สามารถเลือกไป Exchange program ได้เช่นเดียวกัน

เปรียบเทียบวิชาหลัก

BAS TU: ในช่วงปี 1 จะมีการเรียนวิชาพื้นฐานของทางมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ก่อน เช่น TU100 Civil Education, TU101 Thailand, ASEAN, and the world เป็นต้น โดยจะเป็นวิชาพื้นฐานที่ทุกคณะและหลักสูตรจะต้องเรียนในชั้นปีที่ 1 ควบคู่กับการเรียนวิชาพื้นฐานของหลักสูตร เช่น พื้นฐานภาษาอังกฤษ การพูดในที่สาธารณะ ศิลปะ เป็นต้น หลังจากนั้นจึงจะได้เรียนวิชาที่เฉพาะเจาะจงมากขึ้น เช่น วรรณกรรม ประวัติศาสตร์ของทั้ง 2 ประเทศ การเมืองการปกครอง และวิชาอื่นๆ ที่มีความเข้มข้นเกี่ยวกับทั้ง 2 ประเทศ เป็นต้น

BALAC CU: ในช่วงปี 1 ทางจุฬา จะไม่มีวิชาพื้นฐานของทางมหาวิทยาลัยที่น้องๆ จะต้องเรียน อย่างไรก็ตาม น้องๆ จะต้องมีการเรียน Gened ซึ่งคือวิชาการศึกษาทั่วไปของมหาวิทยาลัยที่แบ่งหมวดหมู่ตาม สายวิชาต่างๆ รวมถึง วิชาเลือกเสรี (Free electives) โดยจะต้องเก็บหน่วยกิตให้ครบภายในช่วงเวลา 4 ปี ดังนั้นในช่วงปี 1 น้องๆ จะได้เรียนวิชาของทางหลักสูตร โดยจะเน้นวิชาหลัก เช่น การเขียน การอ่านวิเคราะห์ ความคิดพื้นฐานของเอเชีย ประวัติศาสตร์ทางความคิดตะวันตก ปรัชญาทั่วไป เป็นต้น รวมถึงน้องๆ จะได้เลือกเรียนวิชาวัฒนธรรมศึกษา ตามที่ภาคการศึกษาเปิดให้ลงเรียน นอกจากนี้น้องๆ จะได้เรียนตามวิชาโทที่เลือก เช่น Third Lanaguages, Media study หรือ Global study โดยในชั้นปีที่สูงขึ้น ก็จะเหลือวิชาหลักน้อยลง และจะเหลือเพียงวิชาโทและวิชาเลือกนั่นเองค่ะ

ชีวิต สังคม และกิจกรรม

BAS TU: ในช่วงปี 1 จะมีการเรียนวิชาพื้นฐานของทางมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ก่อน เช่น TU100 Civil Education, TU101 Thailand, ASEAN, and the world เป็นต้น โดยจะเป็นวิชาพื้นฐานที่ทุกคณะและหลักสูตรจะต้องเรียนในชั้นปีที่ 1 ควบคู่กับการเรียนวิชาพื้นฐานของหลักสูตร เช่น พื้นฐานภาษาอังกฤษ การพูดในที่สาธารณะ ศิลปะ เป็นต้น หลังจากนั้นจึงจะได้เรียนวิชาที่เฉพาะเจาะจงมากขึ้น เช่น วรรณกรรม ประวัติศาสตร์ของทั้ง 2 ประเทศ การเมืองการปกครอง และวิชาอื่นๆ ที่มีความเข้มข้นเกี่ยวกับทั้ง 2 ประเทศ เป็นต้น

BALAC CU: ในช่วงปี 1 ทางจุฬา จะไม่มีวิชาพื้นฐานของทางมหาวิทยาลัยที่น้องๆ จะต้องเรียน อย่างไรก็ตาม น้องๆ จะต้องมีการเรียน Gened ซึ่งคือวิชาการศึกษาทั่วไปของมหาวิทยาลัยที่แบ่งหมวดหมู่ตาม สายวิชาต่างๆ รวมถึง วิชาเลือกเสรี (Free electives) โดยจะต้องเก็บหน่วยกิตให้ครบภายในช่วงเวลา 4 ปี ดังนั้นในช่วงปี 1 น้องๆ จะได้เรียนวิชาของทางหลักสูตร โดยจะเน้นวิชาหลัก เช่น การเขียน การอ่านวิเคราะห์ ความคิดพื้นฐานของเอเชีย ประวัติศาสตร์ทางความคิดตะวันตก ปรัชญาทั่วไป เป็นต้น รวมถึงน้องๆ จะได้เลือกเรียนวิชาวัฒนธรรมศึกษา ตามที่ภาคการศึกษาเปิดให้ลงเรียน นอกจากนี้น้องๆ จะได้เรียนตามวิชาโทที่เลือก เช่น Third Lanaguages, Media study หรือ Global study โดยในชั้นปีที่สูงขึ้น ก็จะเหลือวิชาหลักน้อยลง และจะเหลือเพียงวิชาโทและวิชาเลือกนั่นเองค่ะ

BAS Admission Requirements

BAS TU: แบ่งเป็น รอบ Portfolio และ รอบรับตรงร่วม

รอบ Portfolio

1. กำลังศึกษาอยู่ในชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 หรือสำเร็จการศึกษาชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 หรือเทียบเท่าและมีผลการเรียนเฉลี่ยระดับมัธยมศึกษาตอนปลายหรือเทียบเท่า (เช่น GCE, GCSE, IGCSE, IB และ GED) 4 ภาคการศึกษาในระดับ 0 ขึ้นไป หรือเทียบเท่าโดยที่

1.1). ผู้สมัครที่ใช้ผลการสอบ IGCSE, GCSE หรือ GCE ‘A’ level จำนวน 3 วิชา เกรด A*-B หรือ มีผลสอบ Cambridge Pre-U จำนวน 3 วิชา แต่ละรายวิชาเกรดขั้นต่ำ M1 หรือ D1-D3 (ไม่นับรวมผลสอบวิชาภาษาไทยในทุก level)

1.2). ผู้สมัครที่ใช้ผลการสอบ IB ต้องได้ผลคะแนนรวมจาก 5 หมวดวิชา และอีก 1 วิชาเลือก ไม่ต่ำกว่า 24 คะแนน พร้อมผ่านการประเมิน EE, TOK และ CAS ตามเกณฑ์ของ IBO หรือได้รับ IBCR อย่างน้อย 5 วิชา โดยแต่ละวิชาจะต้องไม่ซ้ำกัน และได้ผลการเรียนในแต่ละวิชา ไม่น้อยกว่าเกรด 3

1.3). ผู้สมัครที่ใช้ผลการสอบ GED (แบบเก่า) ต้องมีคะแนนรวมขั้นต่ำ 3,000 คะแนน ต้องสอบ ผ่านอย่างต่ำ 5 รายวิชาไม่ซ้ำกัน โดยแต่ละวิชาได้คะแนนไม่ต่ำกว่า 550 คะแนน

1.4). ผู้สมัครที่ใช้ผลการสอบ GED (แบบใหม่) ต้องมีคะแนนรวมขั้นต่ำ 660 คะแนน ต้องสอบผ่านอย่างต่ำ 4 รายวิชาไม่ซ้ำกัน โดยแต่ละวิชาได้คะแนนไม่ต่ำกว่า 165 คะแนน
** ผู้สมัครที่จบการศึกษาหรือมีผลสอบเทียบวุฒิ (ครบทุกวิชาของการสอบนั้น) ก่อนวันที่ 1 สิงหาคม 2562 อนุโลมให้ใช้เกณฑ์ปีที่แล้วได้ คลิกที่นี่

1.5). ผู้สมัครที่ใช้ผลการสอบของประเทศนิวซีแลนด์ ต้องสอบผ่าน (NCEA) ไม่น้อยกว่า 80 หน่วยกิต ประกอบด้วย level 2 หรือสูงกว่าไม่น้อยกว่า 60 หน่วยกิตและ level 1 หรือสูงกว่าไม่น้อยกว่า 20 หน่วยกิตและต้องได้เกรดเฉลี่ยเทียบเท่า 2.75 ตามการคำนวณของ NZQA

1.6). ผู้สมัครซึ่งสถานศึกษาในระดับมัธยมปลายไม่ได้คำนวณผลการเรียนเฉลี่ยไว้ ต้องนำใบรายงานผลการศึกษา และบันทึกผลการเรียนและหลักฐานการศึกษาอื่นๆ ที่แสดงผลสัมฤทธิ์การศึกษาของผู้สมัครว่าเทียบเท่าระดับ 3.00 ในระบบ GPA มายื่นให้โครงการฯ ในวันรับสมัคร

1.7). ผู้สมัครที่กำลังศึกษาชั้นมัธยมตอนปลายในต่างประเทศหรือในหลักสูตรนานาชาติในประเทศไทย ต้องมีผลการศึกษาชั้นมัธยมศึกษาตอนปลายเฉลี่ยสะสม รวม 4 เทอม ไม่ต่ำกว่า 3.00

2. มีผลการสอบอย่างใดอย่างหนึ่งต่อไปนี้ ซึ่งมีอายุไม่เกิน 2 ปี นับจนถึงวันที่ยื่นใบสมัคร

2.1). IELTS ระดับ 6.5 ขึ้นไป หรือ

2.2). TOEFL (iBT) 80 คะแนนขึ้นไป หรือ

2.3). TU-GET (PBT) 550 คะแนนขึ้นไป หรือ (CBT) 70 คะแนนขึ้นไป หรือ

2.4). SAT ระบบเก่า (Critical Reading) 400 คะแนนขึ้นไป หรือ
SAT ระบบใหม่ (Evidence – Based Reading and Writing) 400 คะแนนขึ้นไป

2.5). GSAT 400 คะแนนขึ้นไป

3. เคยเข้าร่วมโครงการศึกษาแลกเปลี่ยน ณ ต่างประเทศ (ไม่น้อยกว่า 6 เดือนขึ้นไป) ในระดับ ม.ปลาย หรือ เคยได้รับรางวัลจากการแข่งขันระดับชาติ หรือ นานาชาติที่เกี่ยวข้องกับภาษาอังกฤษ หรือ ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับประเทศอังกฤษหรือประเทศสหรัฐอเมริกา (หากมีคุณสมบัติข้อนี้ จะได้รับการพิจารณาเป็นพิเศษ)

4. เกณฑ์การคัดเลือก วัดจากคะแนนสัมภาษณ์ 100%

รอบรับตรงร่วม

1. กำลังศึกษาอยู่ในชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 หรือสำเร็จการศึกษาชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 หรือเทียบเท่าและมีผลการเรียนเฉลี่ยระดับมัธยมศึกษาตอนปลายหรือเทียบเท่า (เช่น GCE, GCSE, IGCSE, IB และ GED) 4 หรือ 6 ภาคการศึกษาในระดับ 2.50 ขึ้นไป หรือเทียบเท่าโดยที่

1.1). ผู้สมัครที่ใช้ผลการสอบ IGCSE, GCSE หรือ GCE ‘A’ level จำนวน 3 วิชา เกรด A*-C หรือ มีผลสอบ Cambridge Pre-U จำนวน 3 วิชา แต่ละรายวิชาเกรดขั้นต่ำ M1 หรือ D1-D3 (ไม่นับรวมผลสอบวิชาภาษาไทยในทุก level)

1.2). ผู้สมัครที่ใช้ผลการสอบ IB ต้องได้ผลคะแนนรวมจาก 5 หมวดวิชา และอีก 1 วิชาเลือก ไม่ต่ำกว่า 24 คะแนน พร้อมผ่านการประเมิน EE, TOK และ CAS ตามเกณฑ์ของ IBO หรือได้รับ IBCR อย่างน้อย 5 วิชา โดยแต่ละวิชาจะต้องไม่ซ้ำกัน และได้ผลการเรียนในแต่ละวิชา ไม่น้อยกว่าเกรด 3

1.3). ผู้สมัครที่ใช้ผลการสอบ GED (แบบเก่า) ต้องมีคะแนนรวมขั้นต่ำ 2,250 คะแนน ต้องสอบ ผ่านอย่างต่ำ 5 รายวิชาไม่ซ้ำกัน โดยแต่ละวิชาได้คะแนนไม่ต่ำกว่า 410 คะแนน

1.4). ผู้สมัครที่ใช้ผลการสอบ GED (แบบใหม่) ต้องมีคะแนนรวมขั้นต่ำ 660 คะแนน ต้องสอบผ่านอย่างต่ำ 4 รายวิชาไม่ซ้ำกัน โดยแต่ละวิชาได้คะแนนไม่ต่ำกว่า 165 คะแนน
** ผู้สมัครที่จบการศึกษาหรือมีผลสอบเทียบวุฒิ (ครบทุกวิชาของการสอบนั้น) ก่อนวันที่ 1 สิงหาคม 2562 อนุโลมให้ใช้เกณฑ์ปีที่แล้วได้

1.5). ผู้สมัครที่ใช้ผลการสอบของประเทศนิวซีแลนด์ ต้องสอบผ่าน (NCEA) ไม่น้อยกว่า 80 หน่วยกิต ประกอบด้วย level 2 หรือสูงกว่าไม่น้อยกว่า 60 หน่วยกิตและ level 1 หรือสูงกว่าไม่น้อยกว่า 20 หน่วยกิตและต้องได้เกรดเฉลี่ยเทียบเท่า 2.50 ตามการคำนวณของ NZQA

1.6). ผู้สมัครซึ่งสถานศึกษาในระดับมัธยมปลายไม่ได้คำนวณผลการเรียนเฉลี่ยไว้ ต้องนำใบรายงานผลการศึกษา และบันทึกผลการเรียนและหลักฐานการศึกษาอื่นๆ ที่แสดงผลสัมฤทธิ์การศึกษาของผู้สมัครว่าเทียบเท่าระดับ 2.50 ในระบบ GPA มายื่นให้โครงการฯ ในวันรับสมัคร

1.7). ผู้สมัครที่กำลังศึกษาชั้นมัธยมตอนปลายในต่างประเทศหรือในหลักสูตรนานาชาติในประเทศไทย ต้องมีผลการศึกษาชั้นมัธยมศึกษาตอนปลายเฉลี่ยสะสม รวม 4 เทอม ไม่ต่ำกว่า 2.50

2. มีผลการสอบอย่างใดอย่างหนึ่งต่อไปนี้ ซึ่งมีอายุไม่เกิน 2 ปี นับจนถึงวันที่ยื่นใบสมัคร

2.1). IELTS ระดับ 6.0 ขึ้นไป หรือ

2.2). TOEFL (iBT) 61 คะแนนขึ้นไป หรือ

2.3). TU-GET (PBT) 500 คะแนนขึ้นไป หรือ (CBT) 61 คะแนนขึ้นไป หรือ

2.4). SAT ระบบเก่า (Critical Reading) 350 คะแนนขึ้นไป หรือ
SAT ระบบใหม่ (Evidence – Based Reading and Writing) 350 คะแนนขึ้นไป

2.5). GSAT 350 คะแนนขึ้นไป

3. เกณฑ์การคัดเลือก วัดจากคะแนนสอบข้อเขียนและสอบสัมภาษณ์

BALAC Admission Requirements

BALAC CU: แบ่งเป็น Admission 2 รอบ

Admission Round 1

Requirements

1. น้องๆ จะต้องกำลังศึกษาอยู่ในระดับมัธยมศึกษาปีที่ 6 หรือสำเร็จการศึกษา หรือเทียบเท่า
2. น้องๆ จะต้องมีผลสอบภาษาอังกฤษและผลสอบ Aptitude โดยจะต้องมีอายุไม่เกิน 2 ปีนับจากวันที่ยื่นใบสมัคร

ผลทดสอบภาษาอังกฤษ

– IELTS 7.0 ขึ้นไป หรือ
– TOEFL iBT 95 คะแนนขึ้นไป หรือ
– CU-TEP 90 คะแนนขึ้นไป

ผลทดสอบ Aptitude

– SAT (Evidence-Based Reading and Writing) 480 คะแนนขึ้นไป หรือ
– CU-AAT (Verbal) 480 คะแนนขึ้นไป หรือ
– ACT (English) 22 คะแนนขึ้นไป

3. เกณฑ์การคัดเลือก วัดจากคะแนนสัมภาษณ์ 100%

Admission Round 2

Requirements

1. น้องๆ จะต้องกำลังศึกษาอยู่ในระดับมัธยมศึกษาปีที่ 6 หรือสำเร็จการศึกษา หรือเทียบเท่า
2. น้องๆ จะต้องมีผลสอบภาษาอังกฤษและผลสอบ Aptitude โดยจะต้องมีอายุไม่เกิน 2 ปีนับจากวันที่ยื่นใบสมัคร

ผลทดสอบภาษาอังกฤษ

– IELTS 6.5 ขึ้นไป หรือ
– TOEFL iBT 79 คะแนนขึ้นไป หรือ
– CU-TEP 80 คะแนนขึ้นไป

ผลทดสอบ Aptitude

– SAT (Evidence-Based Reading and Writing) 450 คะแนนขึ้นไป หรือ
– CU-AAT (Verbal) 400 คะแนนขึ้นไป หรือ
– ACT (English) 18 คะแนนขึ้นไป

3. เกณฑ์การคัดเลือก วัดจากคะแนนสอบข้อเขียนและสอบสัมภาษณ์
หลังจากที่ได้รู้กันไปแล้วว่า BAS TU กับ BALAC CU นั้นมีความเหมือนและแตกต่างกันยังไงบ้าง โดยรวมก็คือความแตกต่างหลักๆ คือตัวหลักสูตรที่มีจุดเน้นเนื้อหาที่แตกต่างกัน

ถ้าน้องๆ เป็นคนที่รู้สึกสนใจเนื้อหาที่เกี่ยวกับวัฒนธรรมโลก รวมถึงสนใจอยากเรียนเฉพาะทางด้าน Global, Media หรือภาษา น้องๆก็จะเหมาะกับหลักสูตรBALAC CU
แต่ถ้าน้องๆ รู้สึกสนใจเนื้อหาที่มุ่งเน้นเกี่ยวกับประเทศอังกฤษและสหรัฐอเมริกามากเป็นพิเศษ น้องๆก็เหมาะกับหลักสูตร BAS TU มากกว่า

ส่วนในเรื่องสังคมและกิจกรรมเวลาเรียน โดยส่วนใหญ่แล้วจะค่อนข้างคล้ายกัน ก็คือ จะมีกิจรรมรับน้อง กิจกรรมกีฬา และอื่นๆ ให้น้องๆ ได้เข้าร่วมนั่นเองค่ะ สำหรับพี่แล้ว ทั้ง 2 หลักสูตรเป็นหลักสูตรที่น่าสนใจ และสามารถนำความรู้ที่มีไปต่อยอดในสายอาชีพในอนาคตได้ทั้งคู่ โดยจะเรียนรู้เกี่ยวกับวัฒนธรรม ประวัติศาสตร์ ความเป็นมา ผ่านการเรียนรู้วรรณกรรม ศิลปะ และอื่นๆ เป็นต้น ยังไงก็ตาม ถ้าน้องๆ อยากได้คำปรึกษาพร้อมกับการเตรียมตัวแน่นปึ้กเพื่อเข้าหลักสูตรใดหลักสูตรหนึ่ง น้องๆ สามารถให้โรงเรียนของเราเป็นตัวช่วยที่จะผลักดันให้น้องๆ ไปสู่ความสำเร็จนั่นได้เลยค่ะ สำหรับวันนี้พี่ขอจบบทความนี้ไว้เท่านี้ก่อน ครั้งหน้าจะเป้นบทความเกี่ยวกับหลักสูตรไหน หรือจะเป็นบทความเกี่ยวกับอะไร ไว้พบกันใหม่นะคะ