BBA จุฬา กับ BBA ธรรมศาสตร์ ต่างกันอย่างไร

Table of Contents

BBA ย่อมาจาก Bachelor of Business Administration หรือที่เราเรียกกันสั้นๆ ว่า บริหารอินเตอร์ หลักสูตรนานาชาตินี้ถูกเปิดในหลายมหาวิทยาลัย ไม่ว่าจะเป็น จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยโดยใช้ชื่อว่า BBA International Program ภายใต้ Chulalongkorn Business School หรือ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ในชื่อ BBA International Program ภายใต้ Thammasat Business School

BBA คือหลักสูตรบริหารธุรกิจนานาชาติ ที่เรียนเน้นไปทางด้านการบริหารและการบัญชี โดยที่เนื้อหาจะถูกแบ่งออกไปตามสาขาที่เรียน เช่น Accounting, Finance, Marketing และ International Business

เนื่องจากสาขาที่มีให้เลือกเรียนในคณะค่อนข้างหลากหลาย งานที่น้องๆ จะจบมาแล้วก็หลากหลายตามสาขาที่เรียนเช่นเดียวกัน เช่น คนที่จบสาขา Finance งานหลักที่สามารถทำได้ คือ งานในสถาบันการเงินต่างๆ โดยเฉพาะการลงทุน แต่อย่างไรก็ตาม น้องๆจะได้เรียนกลุ่มวิชาประมาณ 10 กลุ่มวิชาที่เป็นวิชาพื้นฐานและวิชาเฉพาะที่จะเตรียมน้องๆให้พร้อมสำหรับการทำงานเชิงธุรกิจในแทบจะทุกสาขา

โดยในบทความนี้ เราจะพาน้องๆ มารู้จักกับ BBA จุฬาฯ และ BBA ธรรมศาสตร์ ว่ามีความแตกต่างกันในด้านสาขาแยกย่อย และ คะแนนทีใช้ในการรับสมัคร อย่างไรบ้าง

การแบ่งสาขา

BBA จุฬา

ในส่วนของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยนั้น หลักสูตรบริหารธุรกิจนานาชาติจะถูกแบ่งออกเป็น 4 สาขาหลัก ประกอบด้วย

1. Accounting Major ซึ่งเน้นไปที่การบัญชีเป็นหลัก โดยหลักๆแล้วจะมีวิชาการบัญชีที่น้องๆ ต้องเรียนถึง 30 หน่วยกิต เช่น Principles of Accounting, Cost Accounting, Accounting Information System และอื่นๆ อีกมากมาย นอกจากนี้ ในสาขา Accounting น้องๆ ยังสามารถเลือกวิชาเลือกหรือ elective เพิ่มเติมเกี่ยวกับการบัญชีได้อีกด้วย เช่น Profit Planning and Control และ Analysis and Design of Accounting Database เป็นต้น

2. Financial Analysis and Investment Major
ซึ่งเน้นไปในด้านของการลงทุนและการเงินเป็นหลัก โดยที่น้องๆ ที่จะมาเรียนในสาขานี้จะต้องมีความถนัดด้านคณิตศาสตร์เป็นหลักอีกด้วย จะมีวิชาที่น้องๆต้องเรียนถึง 33 หน่วยกิต เช่น Financial Intermediation, Advanced Business Finance, Financial Derivatives และ Ethics for Financial Professionals นอกจากนี้น้องๆก็สามารถเลือกวิชาเลือกเพิ่มเติมได้อีกด้วย เช่น Current Issues in Finance และ Investment Banking เป็นต้น

3. Brand and Marketing Management Major
ซึ่งเน้นไปในด้านของการลการตลาดและการสร้างแบรนด์ต่างๆ หรือ branding จะมีวิชาที่น้องๆ ต้องเรียนถึง 33 หน่วยกิต เช่น Marketing Planning and Control, Brand Building and Development, Marketing Research และ Global Marketing นอกจากนี้น้องๆก็สามารถเลือกวิชาเลือกเพิ่มเติมได้อีกด้วย เช่น Current Issues in Marketing และ Industrial Marketing เป็นต้น

4. International Business Major
โดยที่สาขานี้จะเน้นไปในด้านธุรกิจระหว่างประเทศซะส่วนใหญ่ เช่น ความแตกต่างทางวัฒนธรรมและธุรกรรมต่างๆ ในสาขานี้ จะมีวิชาที่น้องๆต้องเรียนถึง 33 หน่วยกิต เช่น Logistic and Supply Chain Management, Intercultural Communication และ International Economics นอกจากนี้น้องๆก็สามารถเลือกวิชาหลักบางตัวและวิชาเลือกเพิ่มเติมได้อีกด้วย เช่น Fundamental French/Japanese/Mandarin, Entrepreneurship และ Principle of Investment

BBA ธรรมศาสตร์

ในส่วนของมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ หลักสูตรบริหารธุรกิจนานาชาติจะถูกแบ่งออกเป็น 3 สาขาหลัก ประกอบด้วย

1. Accounting Major โดยหลักๆแล้วจะมีวิชาการบัญชีที่น้องๆต้องเรียนถึง 33 หน่วยกิต เช่น Intermediate Accounting, Tax Accounting และ Auditing ซึ่งประกอบเป็น 30 หน่วยกิต โดยที่น้องต้องเลือกเพิ่มอีก 3 หน่วยกิต เช่น Seminar in Financial Accounting และ Seminar in Accounting Information Systems

2. Finance Major จะมีวิชาที่น้องๆต้องเรียนถึง 33 หน่วยกิต เช่น Financial Mathematics and Statistics, International Finance, Investments และ Derivatives Analysis ซึ่งวิชาบังคับเหล่านี้จะถูกรวมเป็น 15 หน่วยกิตและน้องๆก็ต้องเลือกวิชาเลือกเพิ่มเติมหลักอีก 18 หน่วยกิตอีกด้วย โดยจะแบ่งเนื้อหาหลักๆเป็น Corporate Fincance, Investment และ Financial Institution Management

3. Marketing Major จะมีวิชาที่น้องๆต้องเรียนถึง 33 หน่วยกิต เช่น Consumer Behavior, Brand Management, Marketing Research for Decision Making และ Product & Service Management ซึ่งวิชาบังคับเหล่านี้จะถูกรวมเป็น 33 หน่วยกิต น้องๆยังสามารถเลือกวิชาเลือกหรือ elective เพิ่มเติมเกี่ยวกับการบัญชีได้อีกด้วย เช่น Entrepreneurial Marketing, Sports & Entertainment Marketing และ Accounting for Environmental and Social Responsibility เป็นต้น

ส่วนของเนื้อหาในแต่ละสาขาของทั้งสองมหาวิทยาลัยนั้น เนื้อหาและวิชาสามารถเลือกเรียนได้มีความคล้ายคลึงกันมาก BBA จุฬามีสาขาของธุรกิจระหว่างประเทศหรือ International Business เพิ่มเติมเข้ามา แต่ของBBA ธรรมศาสตร์นั้นจะมีสาขาให้เลือกเพียง 3 สาขา แต่น้องๆ สามารถเลือกวิชาที่เกี่ยวกับธุรกิจระหว่างประเทศในสาขาอื่นๆได้ ตัวอย่างวิชา เช่น International Marketing และ International Finance เป็นต้น

เกณฑ์การสอบเข้า

ในการสอบเข้าคณะนี้ของทั้งสองมหาวิทยาลัย คะแนนที่ใช้ไม่ต่างกันมากแต่คะแนนขั้นต่ำของปีล่าสุดค่อนข้างแตกต่างกันมาก BBA จุฬา มีเกณฑ์การรับอยู่ที่คะแนนรวม 1,270 และคะแนนต่ำสุดของปีล่าสุด (2020) จะอยู่ที่ 1,330 คะแนนซึ่งค่อนข้างสูงทีเดียว แต่ของ BBA ธรรมศาสตร์ นั้น เกณฑ์จะอยู่ที่คะแนนรวม 1,200 คะแนน แยกเป็นคะแนนคณิตศาสตร์ไม่ต่ำกว่า 600 คะแนนและคะแนนพาร์ทภาษาอังกฤษไม่ต่ำกว่า 460 คะแนน แต่คะแนนน้อยสุดที่ติดคณะนี้ของปีล่าสุด (2020) อยู่ที่ 1,230 คะแนน

สรุป

BBA จุฬาแบ่งออกเป็น 4 สาขาคือ

  • Accounting Major
  • Financial Analysis and Investment Major
  • Brand and Marketing Management Major
  • International Business Major

BBA จุฬา มีเกณฑ์การรับอยู่ที่คะแนนรวม 1,270 และคะแนนต่ำสุดของปีล่าสุด (2020) จะอยู่ที่ 1,330 คะแนน
BBA ธรรมศาสตร์แบ่งออกเป็น 3 สาขาคือ

  • Accounting Major
  • Finance Major
  • Marketing Major

BBA ธรรมศาสตร์ นั้น เกณฑ์จะอยู่ที่คะแนนรวม 1,200 คะแนน แยกเป็นคะแนนคณิตศาสตร์ไม่ต่ำกว่า 600 คะแนนและคะแนนพาร์ทภาษาอังกฤษไม่ต่ำกว่า 460 คะแนน คะแนนน้อยสุดที่ติดคณะนี้ของปีล่าสุด (2020) อยู่ที่ 1,230 คะแนน

หากน้องๆ สนใจจะสอบเข้าคณะ BBA จุฬา หรือ BBA ธรรมศาสตร์ ควรศึกษาความแตกต่างให้ดีเพราะเนื้อหาที่สอนค่อนข้างคล้ายคลึงกัน จะแตกต่างกันที่สังคมของมหาวิทยาลัยและบุคลากรที่แต่ละที่รับเข้ามาสอน รวมถึงการแข่งขันในการสอบเข้าด้วยเช่นกัน ดังนั้นก่อนที่น้องๆ จะตัดสินใจเข้ามหาวิทยาลัยไหนก็ควรจะศึกษาข้อมูลเหล่านี้เพิ่มเติมเพื่อเป็นตัวเลือกในการตัดสินใจด้วยเช่นกันค่ะ