การสอบไอเอลคืออะไร? IELTS คือการสอบวัดระดับทางภาษาอังกฤษทั้ง 4 ทักษะ (ฟัง, อ่าน, เขียน, และพูด) ซึ่งเป็นข้อสอบที่ได้รับการยอมรับทั่วโลก โดยตัวพี่เองก็ได้ไปสอบในรอบที่ผ่านมาโดยพี่มีเวลาเตรียมตัวเพียง 1 เดือนเท่านั้น! วันนี้พี่จะมารีวิวสอบ IELTS ว่าเป็นยังไงบ้าง เตรียมตัวยังไง และทำยังไงถึงจะได้คะแนนดี ถ้าพร้อมกันแล้วไปดูกันเลยค่ะ!
รีวิวข้อสอบ IELTS ปี 2024 เตรียมพร้อมด้วยข้อสอบใหม่ล่าสุด
เมื่อไม่นานมานี้ พี่ได้สอบ IELTS ในรูปแบบ IELTS Academic (Computer-Based) และได้คะแนน Overall Band 8 โดยได้คะแนน Reading 8.5 Listening 8.5 Writing 7.5 และ Speaking 7.5 วันนี้พี่จึงอยากจะมารีวิวสอบ IELTS และมาแบ่งปันเคล็ดลับเล็กๆ น้อยๆ ที่ใช้ในการเตรียมตัวสอบค่ะ
พี่สมัครสอบ IELTS ผ่านทางของ IDP นะคะ โดยพี่จะแบ่งการรีวิวสอบ IELTS IDP ออกเป็นแต่ละพาร์ทให้เข้าใจง่ายขึ้น ไปดูกันเลยค่ะ!
Listening
สำหรับการเตรียมตัวสอบ IELTS พาร์ทการฟัง พี่ได้ใช้หนังสือเล่ม BARRON’S IELTS Practice Exams ค่ะ น้องๆ สามารถพัฒนาทักษะการฟังให้ดีขึ้นได้จากการฟังบ่อยๆ และฝึกฝนให้มาก พี่แนะนำให้พยายามทำโจทย์ในแบบที่ตัวเองไม่คล่องให้บ่อยยิ่งขึ้น สำหรับพี่ พี่จะเน้นฟังโจทย์ประเภทแผนที่และแผนผังเป็นพิเศษค่ะ
ในช่วงการสอบ เทคนิคที่น้องๆ ควรรู้คือคำตอบของคำถามจะอยู่ตามลำดับของไฟล์เสียงเสมอ จะมีเวลานิดหน่อยก่อนที่ไฟล์เสียงจะเริ่มขึ้น น้องๆ ควรใช้เวลาช่วงนั้นในการอ่านคำถามให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้ ในขณะที่ฟังอยู่ให้ตั้งใจฟังและคิดตามไปด้วย (Active Listening) ถ้ารู้สึกว่าฟังตรงไหนพลาดไปก็แค่ข้ามไปก่อนและตอนท้ายค่อยเดาคำตอบอย่างมีหลักการค่ะ
Speaking
สำหรับพาร์ทการพูด พี่แนะนำให้ฝึกพูดตามหัวข้อหลักที่ออกบ่อย เช่น การเรียน การทำงาน ไลฟ์สไตล์ การท่องเที่ยว อินเตอร์เน็ต กิจกรรมเวลาว่าง เป็นต้น เทคนิคสำคัญในการฝึกพาร์ทนี้คือการทำ Mock Test ถ้าเป็นไปได้ควรเป็น Mock Test แบบออฟไลน์ Face-to-face จะดีมาก สิ่งที่ควบคุมยากที่สุดสำหรับพาร์ทนี้คือความตื่นเต้นและความกังวล ซึ่งเราสามารถจัดการความรู้สึกนี้ได้จากการทำ Mock Test บ่อยๆ
อีกหนึ่งวิธีที่พี่ใช้และได้ผลมาก คือการศึกษาวิธีพูดและวิธีตอบของคนที่ได้ IELTS Speaking Band 8 – 9 ใน YouTube น้องจะเห็นว่าคำตอบที่คนเหล่านั้นใช้ส่วนใหญ่จะเป็นการตอบอย่างตรงไปตรงมา ไม่ได้มีคำศัพท์ยากหรือประโยคที่ซับซ้อนมากมาย
ในระหว่างการสอบและพาร์ท พี่พูดช้า ค่อยๆ ตอบ น้องๆ ไม่ต้องกังวลในจุดนี้นะคะ เพราะผู้คุมสอบจะไม่ได้หักคะแนนหากเราพูดช้าหรือหยุดคิดก่อนตอบ พี่คิดว่าถ้าเราคิดก่อนจะเริ่มพูด น้องจะสามารถตอบได้อย่างจริงใจและเป็นธรรมชาติมากขึ้น เพราะมันเป็นคำตอบที่มาจากประสบการณ์ส่วนตัวของเราเอง ไม่ได้เป็นคำตอบที่แต่งขึ้น แล้วผู้คุมสอบจะไม่ได้ให้คะแนนในตัวเนื้อหาที่น้องพูดนะคะ ตราบใดที่มันยังเป็นคำตอบที่เกี่ยวข้องกับเรื่องที่ถาม ถึงแม้ว่าคำตอบอาจจะฟังดูไม่สวยหรูก็ไม่เป็นไร ตอบไปเลยอย่างมั่นใจค่ะ สำหรับคำถามพาร์ท 3 พี่ได้เรื่อง Hobbies ค่ะ ซึ่งส่วนตัวก็ไม่ได้รู้สึกว่ายากมากค่ะ
Reading
การเตรียมตัวก่อนสอบพี่ใช้หนังสือ Cambridge English: IELTS Academic และเว็บไซต์ IELTS LIZ เป็นหลักในการทำความเข้าใจประเภทคำถามต่างๆ ค่ะ เทคนิคที่น้องๆ ควรรู้คือคำตอบของคำถามจะเรียงตามลำดับเสมอ เช่น ถ้าคำตอบของคำถามที่ 1 อยู่ในย่อหน้าที่ 2 ประโยคแรกแล้ว คำตอบของคำถามที่ 2 ก็จะอยู่ถัดหลังจากนั้น การเตรียมตัวที่ดีที่สุดคือการฝึกฝนแบบจับเวลาจริงให้ได้มากที่สุด ข้อไหนที่ไม่แน่ใจให้ทำเครื่องหมายไว้และให้กลับมาเข้าใจคำตอบที่เราตอบผิดพลาดทุกครั้งค่ะ
เทคนิคส่วนตัวคือ ในครั้งแรกพี่จะพยายามอ่านในแต่ละย่อหน้าให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ก่อน (Skimming) ถ้าเจอคำไหนที่ไม่เข้าใจก็ให้อ่านข้ามๆ ไปก่อน เพื่อให้พอรู้ว่าแต่ละย่อหน้าพูดถึงอะไร จากนั้นเมื่อพี่อ่านคำถามแล้ว พี่ก็จะกลับไปหาคำตอบอย่างละเอียดอีกครั้ง (Scanning) ในแต่ละย่อหน้า วิธีนี้ช่วยให้พี่ประหยัดเวลาและเข้าใจเนื้อหาได้ดีขึ้นมากๆ ค่ะ
Writing
ต่อไปเป็นการรีวิวสอบไอเอลพาร์ทสุดท้ายซึ่งก็คือ Writing นั่นเองค่ะ ในการเตรียมตัว พี่ให้ความสำคัญกับการฝึก Task 1 และ Task 2 เท่าๆ กันเพราะมันช่วยให้พี่คุ้นเคยกับรูปแบบคำถามและวิธีการตอบในหลากหลายแบบ นอกจากนี้พี่ได้ใช้หนังสือ Cambridge English: IELTS Academic เป็นหลักในการฝึกเขียน อีกอย่างที่สำคัญมากๆ คือน้องๆ ควรศึกษาเกณฑ์การให้คะแนนพาร์ทเขียนอย่างละเอียด ซึ่งประกอบด้วย 4 เกณฑ์หลัก คือ
- Task Achievement/Response: ความสามารถในการตอบโจทย์ได้ตรงประเด็นและครบถ้วน
- Coherence and Cohesion: การจัดระเบียบความคิดและการใช้คำเชื่อมโยงให้เนื้อหาลื่นไหล
- Lexical Resource: ความหลากหลายและความถูกต้องของคำศัพท์ที่ใช้
- Grammatical Range and Accuracy: ความหลากหลายและความถูกต้องของโครงสร้างไวยากรณ์
การเข้าใจเกณฑ์เหล่านี้จะช่วยให้เราวางกลยุทธ์การเขียนได้อย่างถูกต้อง และรู้ว่าจะต้องเน้นอะไรในแต่ละ Task
นอกจากนี้ตอนที่พี่ฝึกเขียน พี่ได้ใช้ ChatGPT ในการแก้ไขไวยกรณ์และข้อผิดพลาดต่างๆ พี่คิดว่าเบื้องต้นมันก็สามารถให้คำแนะนำเป็นแนวทางที่ดี แต่บางครั้งพี่รู้สึกว่าคำตอบที่แก้มาให้อาจจะซับซ้อนเกินไปหน่อย อย่างไรก็ตามพี่คิดว่า ChatGPT ก็เป็นเครื่องมือเสริมที่ช่วยตรวจให้เบื้องต้น แต่ควรเน้นการฝึกเขียนด้วยตัวเองเป็นหลักและให้ครูผู้เชี่ยวชาญด้านการเขียน IELTS มาค่อย Correct ให้จะดีกว่าค่ะ
ในระหว่างการสอบพี่พยายามเขียนคำตอบให้เรียบง่าย ใช้คำศัพท์และประโยคที่ไม่ซับซ้อนเกินไป เพื่อเลี่ยงความผิดพลาดที่อาจทำให้พี่เสียคะแนน นอกจากนี้พี่ทำ Task 2 ก่อนและค่อยทำ Task 1 เพราะส่วนตัวพี่คิดว่า Task 2 ให้คะแนนมากกว่าพี่ก็เลยอยากใช้เวลาและพลังงานใน Task 2 ก่อนค่ะ ในส่วนของคำถามที่พี่ได้จะเป็นการแสดงความคิดเห็นว่าเราเห็นด้วยกับการสนับสนุนการจัดหา Housing ให้กับคนที่ Afford ไม่ได้ไหมค่ะ ซึ่งในความคิดของพี่คิดว่าไม่ยากมากค่ะ
เคล็ดลับการเตรียมตัวสอบ IELTS
สำหรับการรีวิวสอบ IELTS ส่วนต่อไปจะเป็นในเรื่องของการเตรียมตัวสอบ IELTS นะคะ สำหรับพี่แล้วพี่แบ่งการเตรียมตัวออกเป็นสองส่วนค่ะ คือการเตรียมตัวด้วยตัวเอง กับการใช้ตัวช่วยค่ะ
ลงเรียนคอร์ส IELTS
ในส่วนของการใช้ตัวช่วยนะคะ ก็คือการที่พี่ได้ลงคอร์สเรียน IELTS โดยพี่ได้เลือกเป็นคอร์สติว IELTS ของทางสถาบัน EngSnack ค่ะ โดยคุณครูที่สอนเต็มที่กับการสอนมากๆ และพี่ได้เทคนิค ความรู้ และกำลังใจที่เยอะมากๆจากคุณครูของ EngSnack ซึ่งเพิ่มความมั่นใจในการสอบและช่วยในการทำข้อสอบมากๆ เลยค่ะ
ฝึกทำข้อสอบ IELTS
นอกจากการลงคอร์สเรียน IELTS แล้ว พี่ยังคิดว่าการเตรียมตัวด้วยตัวเอง โดยการฝึกทำโจทย์ให้เยอะๆ ซึ่งตัวช่วยที่พี่ใช้ก็จะมีการฝึกผ่าน Youtube IELTS Advantage เว็บไซต์ IELTS LIZ หนังสือ 2 เล่มที่พี่ใช้คือ Cambridge English: IELTS Academic และ BARRON’S IELTS Practice Exams ตัวช่วยเหล่านี้ทำให้พี่ชินกับการทำข้อสอบไอเอลมากๆ เลยค่ะ ที่สำคัญมากๆ เลยในส่วนของ Writing และ Speaking ซึ่งต้องอาศัยคนไกด์ไลน์ให้ พี่ก็ได้คุณครูที่ EngSnack ที่ช่วยฝึกและคอมเมนต์แก้ไขข้อบกพร่องให้ด้วยค่ะ
รีวิวทุกขั้นตอนการสมัครสอบ IELTS
นอกจากการรีวิวสอบ IELTS แล้ว พี่ก็จะมารีวิวการสมัครสอบไอเอลด้วยค่ะ การสมัครสอบของทาง IDP ก็ง่ายมากๆ เลยค่ะสามารถทำผ่านทางออนไลน์ได้เลย แต่ด้วยความที่พี่เป็นคนขี้กังวลมากๆ ก็เลยเลือกที่จะไปสมัครผ่านทางออฟฟิศของ IDP เลยค่ะ ซึ่งการสมัครก็ง่ายมากๆเลย โดยเจ้าหน้าที่จะจัดการให้เลย เราแค่กรอกข้อมูลเลยค่ะ
เอกสารสำคัญที่ต้องเตรียมก่อนวันสอบ IELTS
เอกสารที่ต้องใช้มีแค่หลักฐานยืนยันตัวตนเลยค่ะ (บัตรประชาชนหรือพาสปอร์ต) โดยนอกจากใช้สมัครสอบแล้ว หลักฐานยืนยันตัวตนอันนี้ต้องเอาไปในวันสอบด้วยนะคะ
เลือกสถานที่สอบ IELTS ให้เหมาะกับตัวเอง
น้องๆ อาจจะสงสัยว่าสอบ IELTS ที่ไหนดีจะเลือกยังไงนะคะ ตรงนี้พี่คิดว่าแล้วแต่คนเลยค่ะ ส่วนตัวพี่คิดว่าทั้งสองผู้จัดสอบจะไม่ได้ต่างกันมากค่ะ โดนสำหรับพี่เหตุผลจะเป็นดังนี้ค่ะ
- British Council : พี่ไม่ได้เลือก British Council แค่เหตุผลเดียวเลยคือเพราะสถานที่สอบจะจัดสอบที่โรงแรมแถวสถานีรถไฟฟ้านานา ซึ่งจะค่อนข้างไกลค่ะ
- IDP : สถานที่จัดสอบของ IDP จะอยู่ที่โรงแรมใกล้กับสถานีศาลาแดง ซึ่งพี่เดินทางสะดวกกว่ามากๆ ค่ะ
รีวิวสิ่งที่ต้องเตรียมก่อนไปสนามสอบ IELTS
ถ้าจะรีวิวสอบไอเอล คงจะไม่รีวิวสิ่งที่ต้องเตรียมไปไม่ได้ใช่มั้ยคะ โดยสำหรับพี่ในตอนที่ไปสอบ สิ่งที่จำเป็นเตรียมไปมีแค่หลักฐานการยืนยันตัวตน และขวดน้ำดื่ม (ใสและนำฉลากออก) โดยเครื่องเขียนทางผู้จัดสอบจะเตรียมไว้ให้ เราไม่ต้องนำไปก็ได้ค่ะ
เผยวิธีเช็กผลคะแนนสอบ IELTS
ส่วนสุดท้ายของการรีวิวสอบ IELTS ก็คือการเช็คผลคะแนน IELTS ผลคะแนนของทั้ง IDP และ British Council จะสามารถดูผลคะแนนผ่านทางออนไลน์ได้เลยหลังจากสอบ 13 วันค่ะ และสามารถไปรับผลสอบตัวจริงได้ที่ออฟฟิศด้วยตัวเอง หรือให้ส่งผ่านไปรษณีย์ได้เช่นกันค่ะ สำหรับพี่ พี่ไปรับผลที่ IDP เองเลยค่ะเพื่อความมั่นใจ
สรุปจบรีวิวการสอบ IELTS
ก็จบกันไปแล้วนะคะสำหรับการรีวิวสอบ IELTS พี่หวังว่าการรีวิวนี้จะเป็นประโยชน์ให้กับน้องๆที่กำลังจะไปสอบต่อไปนะคะ ตามที่พี่ได้รีวิวสอบไอเอลไป หากใครมองหาตัวช่วยในการเตรียมตัวสอบอยู่ พี่แนะนำที่ EngSnack เลยค่ะ คุณครูผู้สอนตั้งใจมากจริงๆ และเนื้อหาในคอร์สก็อัดแน่นทำให้เรามั่นใจในการสอบได้แน่นอนเลยค่ะ พี่เป็นกำลังใจให้น้องๆ ทุกคนนะคะ
