IELTS เป็นข้อสอบที่เป็นเปิดโอกาสทั้งในด้านการเรียนต่อและทำงานทั้งในและต่างประเทศ ข้อสอบมีทั้ง IELTS Academic และ IELTS General Training พร้อมรูปแบบการสอบที่มีให้เลือกทั้งแบบกระดาษหรือแบบคอมพิวเตอร์ วันนี้พี่มีรายละเอียดแบบเจาะลึกเกี่ยวกับ IELTS และเคล็ดลับคว้าคะแนนสูง ถ้าพร้อมแล้วตามมาเลยค่ะ!
IELTS คืออะไร? มารู้จักข้อสอบที่ได้รับการยอมรับทั่วโลก
IELTS หรือ International English Language Testing System เป็นหนึ่งในการทดสอบภาษาอังกฤษที่ได้รับการยอมรับอย่างแพร่หลายทั่วโลกเพราะใช้เป็นมาตรฐานในการประเมินความสามารถด้านภาษาอังกฤษสำหรับการศึกษาต่อและการทำงานในหน่วยงานต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นในประเทศอังกฤษ ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ แคนาดา หรือแม้กระทั่งในประเทศไทยเอง นอกจากนี้ ไอเอลยังเป็นการทดสอบภาษาอังกฤษสำหรับผู้ที่ต้องการย้ายถิ่นฐานไปยังประเทศที่ใช้ภาษาอังกฤษเป็นหลักอีกด้วย
IELTS มีกี่ประเภท? และแตกต่างกันอย่างไร?
การสอบ IELTS จะแบ่งเป็น 2 ประเภทตามจุดประสงค์การใช้คะแนนดังนี้ค่ะ
IELTS Academic
IELTS Academic คือการทดสอบวัดระดับความสามารถภาษาอังกฤษเชิงวิชาการ สำหรับผู้ที่ต้องการศึกษาต่อในระดับปริญญาตรี ปริญญาโท และปริญญาเอก โดยคะแนน IELTS Academic สามารถยื่นได้ทั้งมหาวิทยาลัยหลักสูตรอินเตอร์ของไทย และมหาวิทยาลัยต่างประเทศ รวมไปถึงสำหรับใช้สมัครทำงานที่ต้องการทักษะการใช้ภาษาอังกฤษระดับสูง
IELTS General Training
IELTS General Training คือการทดสอบวัดระดับความสามารถภาษาอังกฤษในชีวิตประจำวัน โฟกัสทักษะการใช้ภาษาอังกฤษเพื่อการอยู่รอดพื้นฐานในบริบททางสังคมและที่ทำงาน ซึ่งตัวข้อสอบนี้จะมีความง่ายกว่า IELTS Academic ข้อสอบ IELTS General Training ใช้สำหรับผู้ที่ต้องการศึกษาต่อหรือฝึกอบรมต่างประเทศในระดับที่ต่ำกว่าปริญญา หรือผู้ที่ต้องการย้ายถิ่นฐานหรือเข้าทำงานในประเทศที่ใช้ภาษาอังกฤษ
รูปแบบการสอบ IELTS
รูปแบบการสอบ IELTS Academic
ประกอบไปด้วยการทดสอบ 4 ทักษะได้แก่ ฟัง อ่าน เขียน และพูด โดยมีรายละเอียดดังนี้
Listening การฟัง (30 นาที): ประกอบไปด้วย 40 คำถามจากบันทึกเสียงทั้งหมด 4 ชุด มีเนื้อหาที่หลากหลายตั้งแต่ชีวิตประจำวันไปจนถึงการบรรยายเลคเชอร์ทางวิชาการ
Reading การอ่าน (60 นาที): ประกอบด้วย Passage ยาว 3 บทความที่มีหัวข้อที่หลากหลายเช่น วิทยาศาสตร์ ธรรมชาติ ประวัติศาสตร์ การท่องเที่ยว และ เศรษฐกิจ เป็นต้น ข้อสอบต้องการทดสอบทักษะ การอ่านเพื่อหา Main Idea การอ่านเพื่อหาข้อมูลและรายละเอียด เป็นต้น
Writing การเขียน (60 นาที): ในส่วนของการเขียนจะแบ่งออกเป็น 2 ส่วน ส่วนแรกเป็นการอธิบายข้อมูลจากรูปกราฟ ตารางหรือแผนผัง ส่วนที่สองคือการเขียนเรียงความแสดงความคิดเห็น
Speaking การพูด (11-14 นาที): การสอบพูดจะถูกแบ่งออกเป็น 3 ส่วนตั้งแต่การพูดคุยเกี่ยวกับชีวิตประจำวันไปจนถึงการพูดโต้ตอบกับผู้คุมสอบ
รูปแบบการสอบ IELTS General Training
ประกอบไปด้วยการทดสอบ 4 ทักษะได้แก่ ฟัง อ่าน เขียน และพูดแต่จะมีความยากน้อยกว่าแบบ IELTS Academic โดยมีรายละเอียดดังนี้
Listening การฟัง (30 นาที): ประกอบด้วย 40 คำถามจากบันทึกเสียงทั้งหมด 4 ชุด เนื้อหาเกี่ยวกับชีวิตประจำวันและการทำงาน
Reading การอ่าน (60 นาที): ประกอบด้วย Passage ยาว 3 บทความที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับเรื่องในชีวิตประจำวันและบริบทการทำงาน บทความจะสั้นและเนื้อหาจะง่ายกว่า IELTS Academic
Writing การเขียน (60 นาที): แบ่งออกเป็น 2 ส่วน ส่วนแรกคือการเขียนจดหมาย ส่วนที่สองคือการเขียนเรียงความตามหัวข้อที่กำหนด
Speaking การพูด (11-14 นาที): การสอบพูดแบ่งออกเป็น 3 ส่วน คล้ายกับการสอบแบบ IELTS Academic
สอบ IELTS วิธีแบบไหนที่เหมาะกับเรา
ปัจจุบัน IELTS มีการสอบ 3 แบบ หลายคนอาจสงสัยว่าสอบแบบไหนดีกว่ากัน เรามาเปรียบเทียบข้อมูลการสอบทั้ง 3 แบบเพื่อตัดสินใจว่าสอบแบบไหนจะเหมาะกับเรามากที่สุดกันค่ะ
IELTS แบบกระดาษ (Paper-Based)
-
- รูปแบบ: ใช้วิธีดั้งเดิมโดยการเขียนคำตอบลงบนกระดาษ
-
- ส่วนประกอบของการสอบ: ทดสอบทักษะการฟัง พูด อ่าน เขียน
-
- ข้อสอบฟัง: Record จะเล่นผ่านลำโพงในห้องสอบ ผู้สอบเขียนคำตอบลงบนกระดาษคำถามก่อนแล้วตอนท้ายจะมีเวลาอีก 10 นาทีเขียนคำตอบลงใน Answer Sheet
-
- ข้อสอบเขียน: ผู้สอบสามารถแพลนคำตอบและร่างโครงการเขียนได้อย่างสะดวกแต่ข้อเสียจะอยู่ที่การแก้ไขส่วนที่ผิดหรือแก้ไขปรับปรุงข้อความต่างๆ อีกทั้งถ้าผู้สอบมีลายมือที่ไม่บรรจงอาจส่งผลต่อความเข้าใจของผู้อ่านได้เช่นกัน
-
- ข้อสอบอ่าน: ผู้สอบสามารถขีดเส้นใต้ข้อความหรือจดโน๊ตได้อย่างสะดวก อย่างไรก็ตามการพลิกหน้ากระดาษไปมาระหว่างอ่านบทความก็อาจจะเป็นเรื่องยากสำหรับบางคนได้
-
- ข้อสอบพูด: สัมภาษณ์แบบตัวต่อตัวกับผู้คุมสอบแบบ Face-to-Face
-
- ระยะเวลาการรับผลสอบ: ประมาณ 13 วัน
IELTS แบบคอมพิวเตอร์ (Computer-Based)
-
- รูปแบบ: ใช้คอมพิวเตอร์สำหรับการทดสอบ
-
- ส่วนประกอบของการสอบ: ทดสอบทักษะการฟัง พูด อ่าน เขียน
-
- ข้อสอบฟัง: มีการใช้หูฟังซึ่งจะได้เปรียบในเรื่องความชัดเจนของเสียงและเมื่อฟังเสร็จสามารถพิมคำตอบลงไปได้ทันที
-
- ข้อสอบเขียน: เป็นการพิมพ์ด้วยคอมพิวเตอร์ สามารถแก้ไขหรือปรับปรุงข้อความต่างๆ ได้ง่ายกว่าการเขียนมือ มีระบบนับคำให้อัตโนมัติ แต่ต้องฝึกทักษะการพิมให้ถูกต้องและรวดเร็วด้วยเช่นกัน
-
- ข้อสอบอ่าน: ผู้สอบสามารถใช้ฟังก์ชั่นต่างๆ เช่นการไฮไลท์ การ Search คำ ปรับขนาดตัวอักษร เปลี่ยนสีพื้นหลังซึ่งฟังก์ชั่นเหล่านี้ก็จะช่วยให้เจอคำตอบได้ง่ายขึ้น
-
- ข้อสอบพูด: สัมภาษณ์แบบตัวต่อตัวกับผู้คุมสอบแบบ Face-to-Face
-
- ระยะเวลาการรับผลสอบ: รับผลสอบได้เร็วกว่าแบบ Paper โดยได้รับหลังสอบ 5 วัน
IELTS Online
-
- รูปแบบ: ใช้คอมพิวเตอร์ของตัวเองสอบ IELTS ออนไลน์ได้จากที่บ้าน
-
- ส่วนประกอบของการสอบ: ทดสอบทักษะการฟัง พูด อ่าน เขียน
-
- ข้อสอบฟัง อ่าน เขียน: ทำในโปรแกรมคล้ายกับการสอบแบบ IELTS Computer-based
-
- ข้อสอบพูด: สอบกับ Examiner ผ่านการ Video Call
-
- สิ่งที่ต้องมีในการสอบแบบ Online: อินเทอร์เน็ตที่มีความเร็วเสถียร คอมพิวเตอร์ที่มีเว็บแคม ไมโครโฟน และสภาพแวดล้อมที่พร้อมสำหรับการสอบจริงๆ
-
- ข้อจำกัด: เปิดให้สอบเฉพาะ IELTS Academic แบบ Regular เท่านั้น และสามารถรับผลสอบได้แบบ Digital เท่านั้น
-
- ระยะเวลาการรับผลสอบ: ประมาณ 5 – 8 วัน
สำหรับใครที่มีความคุ้นเคยในการใช้เทคโนโลยี แนะนำให้สอบแบบ Computer-based หรือ Online เพราะสะดวกในพิมพ์และแก้ไขข้อความต่างๆ รวมทั้งยังสามารถบริหารจัดการเวลาได้ดีกว่าเพราะในหน้าจอจะมีเวลาคอยเตือนอยู่ตลอด แต่สำหรับใครที่ชอบอ่านหนังสือเป็นเล่มเหรือการเขียนในกระดาษ ขอแนะนำให้สอบแบบ Paper-based เพราะจะเหมาะกับสไตล์การสอบแบบนี้มากกว่าค่ะ
รายละเอียดการสมัครสอบ IELTS
ในประเทศไทยนั้นมีตัวแทนศูนย์สอบ IELTS อยู่ด้วยกัน 2 ที่ คือ IELTS IDP Thailand (ตัวแทนการจัดสอบจากประเทศออสเตรเลีย) และ British Council (ตัวแทนการจัดสอบจากสหราชอาณาจักร) ซึ่งจะมีรายละเอียดการสมัครดังต่อไปนี้
การสมัครสอบ IELTS ผ่าน IDP และ British Council
IDP:
-
- สมัครด้วยตัวเอง: ที่สำนักงาน IDP ในกรุงเทพฯ, ขอนแก่น, เชียงใหม่ พร้อมเอกสารสำเนาหนังสือเดินทางหรือบัตรประชาชน
-
- สมัครออนไลน์: ผ่านเว็บไซต์ IDP, กรอกข้อมูลและชำระเงินออนไลน์
-
- ผ่านเจ้าหน้าที่: ติดต่อ IELTS Hotline, Line, หรือ Facebook Fanpage
British Council:
-
- สมัครด้วยตัวเอง: ที่ตึกจามจุรีสแควร์, กรุงเทพฯ ในวันจันทร์-อาทิตย์
-
- สมัครออนไลน์: ผ่านเว็บไซต์ของ British Council
ค่าสมัครสอบของ IELTS แต่ละประเภท
-
- IELTS Regular (แบบกระดาษหรือแบบคอมพิวเตอร์): 7,350 บาท
-
- IELTS UKVI (แบบกระดาษหรือแบบคอมพิวเตอร์): 7,990 บาท
-
- IELTS Life Skill (A1 และ B1): 6,300 บาท
*อัพเดทจาก 22 ธันวาคม 2566
ที่ตั้งศูนย์สอบ IELTS
สนามสอบ IELTS IDP แบบ Paper-based Test
-
- กรุงเทพฯ: ศูนย์สอบ IDP IELTS สีลม, Newton Prep School
-
- ชลบุรี: Burapha University Language Institute
-
- พิษณุโลก: Naresuan University
-
- ขอนแก่น: Khon Kaen University, Faculty of Humanities and Social Science
-
- เชียงใหม่: Kantary Hills Hotel
-
- เชียงราย: Chiangrai Municipality School 6
-
- หาดใหญ่: Buri Sriphu Convention Centre Hatyai
สนามสอบ IELTS IDP แบบ Computer-based Test
-
- กรุงเทพฯ: ศูนย์สอบ IDP IELTS สีลม, New Cambridge Institute, สถาบัน InterPass, สถาบันสอนภาษา Paradigm, English Parks, สถาบัน AUA
-
- ขอนแก่น: Greater Good Education
-
- อุบลราชธานี: ศูนย์ภาษาลีด
-
- ภูเก็ต: Phuket PALS
-
- สงขลา: C-Bright Language School
-
- เชียงใหม่: สถาบันสอนภาษา I-Genius
-
- เชียงราย: ศูนย์สอบ The Learning Centre (TLC)
ศูนย์สอบ IELTS British Council แบบ Paper-based Test
-
- กรุงเทพฯ
-
- สมุทรปราการ
-
- ปทุมธานี
-
- พิษณุโลก
-
- นครราชสีมา
-
- ขอนแก่น
-
- เชียงใหม่
-
- ภูเก็ต
ศูนย์สอบ IELTS British Council แบบ Computer-based Test
-
- กรุงเทพฯ
-
- เชียงใหม่
เตรียมพร้อมก่อนสอบ IELTS
การเตรียมตัวสอบ IELTS นับเป็นอีกหนึ่งโอกาสให้เราได้พัฒนาทักษะภาษาอังกฤษของตัวเองให้ดีขึ้น เมื่อเราตั้งเป้าหมายคะแนน IELTS ที่ต้องการในใจแล้ว การวางแผนเตรียมตัวสอบอย่างมีกลยุทธ์เป็นสิ่งที่สำคัญมาก EngSnack มีขั้นตอนแนะนำง่ายๆ สำหรับการเตรียมตัวให้พร้อมก่อนสอบ IELTS ดังนี้ค่ะ
ขั้นตอนที่ 1: ทำ IELTS Pre Test
การทำ IELTS Pre Test จะช่วยให้เรารู้จักกับรูปแบบข้อสอบ และเข้าใจจุดแข็ง จุดอ่อนของตัวเอง เพื่อเราจะได้วางแผนการฝึกอย่างมีกลยุทธ์ต่อไป
ขั้นตอนที่ 2: ทำความเข้าใจรูปแบบข้อสอบ เกณฑ์การให้คะแนน
หลังที่ได้ทราบผลจากการ Pre Test แล้ว สิ่งสำคัญคือเราต้องทำความเข้าใจรูปแบบข้อสอบและเกณฑ์การให้คะแนนก่อนที่จะเริ่มฝึกฝนอย่างจริงจัง เพื่อให้เรารู้ว่าควรเตรียมตัวอย่างไร มีเนื้อหาและทักษะอะไรบ้างที่ข้อสอบต้องการทดสอบเราบ้าง รวมไปถึงการศึกษา Band ของแต่ละระดับคะแนนโดยเฉพาะในข้อสอบส่วน Writing และ Speaking
ขั้นตอนที่ 3: เพิ่มความรู้และพัฒนาทักษะให้พร้อมสอบ IELTS
หลังจากทราบจุดอ่อนของตัวเองจากการทำ Pre Test และได้ทำความเข้าใจรูปแบบข้อสอบแล้ว เราควรเริ่มจากการปูพื้นฐานไวยกรณ์ภาษาอังกฤษ และเรียนรู้เทคนิคสำคัญในการทำข้อสอบ IELTS
ขั้นตอนที่ 4: เพิ่มคลังศัพท์
การมีคลังศัพท์เก็บไว้เยอะๆ เป็นสิ่งสำคัญในการสอบ IELTS มาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งการท่องศัพท์ที่ใช้บ่อยในข้อสอบ และทำความคุ้นเคยกับ Synonyms ต่างๆ เพื่อเพิ่มความหลากหลายในการใช้ภาษาในพาร์ทข้อสอบ Writing และ Speaking
ขั้นตอนที่ 5: ฝึกทำโจทย์และจับเวลา
การฝึกทำโจทย์เป็นประจำ และการจับเวลาตามจริง เป็นสิ่งที่จะช่วยให้เราคุ้นเคยกับความเครียดในการสอบ IELTS ที่สำคัญหลังจากทำ Practice Test ในทุกๆ ครั้ง อย่าลืมทบทวนคำตอบเพื่อทำความเข้าใจข้อที่ตอบผิดพลาดและพัฒนาขึ้นไปไม่ให้ผิดซ้ำแบบเดิม
ขั้นตอนที่ 6: ฝึกใช้ภาษาอังกฤษเป็นนิสัย
พยายามทำให้การใช้ภาษาอังกฤษเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวัน ไม่ว่าจะเป็นการเริ่มอ่านบทความภาษาอังกฤษ ดูหนังหรือรายการทีวีภาษาอังกฤษ หรือรวมไปถึงการฝึกพูดภาษาอังกฤษกับเพื่อน
คอร์สติวสอบ IELTS ที่ EngSnack
คว้าคะแนนสูงในการสอบ IELTS ได้ง่ายๆ กับคอร์สเรียนของเรา! เราจะพาน้องๆ ไปสู่คะแนน IELTS 7.0+ ด้วยการเตรียมตัวที่เข้มข้น แก้ไขจุดอ่อนแบบรายบุคคล จะได้ฝึกฝนกับแนวข้อสอบ IELTS Academic แบบจริงจัง ไม่ว่าจะเป็นมือใหม่ที่ไม่เคยมีพื้นฐานการสอบมาก่อน หรือต้องการสอบ IELTS ให้ได้ IELTS 7.0+ เรามีเทคนิคลับเฉพาะที่จะช่วยให้คะแนนสอบ IELTS อัพขึ้นอย่างรวดเร็ว เราเข้าใจดีว่าการสอบ IELTS คือการลงทุนสำหรับอนาคตเนื่องจากค่าสอบ IELTS ก็มีราคาที่ค่อนข้างสูง ดังนั้นเราจึงเต็มที่และใส่ใจในการพัฒนาคอร์สเรียนที่ใช้ได้จริง เพื่อให้ทุกคนสามารถเตรียมตัวสำหรับการสอบ IELTS อย่างดีที่สุด!
สรุปการสอบ IELTS
IELTS (International English Language Testing System) เป็น การทดสอบภาษาอังกฤษสำหรับผู้ที่ต้องการศึกษาต่อ ทำงาน หรือย้ายถิ่นฐานไปยังประเทศที่ใช้ภาษาอังกฤษเป็นหลัก การสอบ IELTS แบ่งเป็น 2 ประเภทหลักๆ คือ IELTS Academic สำหรับผู้ที่ต้องการศึกษาต่อระดับสูง และ IELTS General Training สำหรับการใช้ภาษาในชีวิตประจำวัน ข้อสอบประกอบด้วยการทดสอบ 4 ทักษะคือ Listening Reading Writing และ Speaking ซึ่งมีรูปแบบข้อสอบและเกณฑ์การให้คะแนนที่แตกต่างกันเล็กน้อย คอร์สติวสอบ IELTS Academic ของ EngSnack จะช่วยเตรียมน้องๆ ให้ได้คะแนน 7.0+ ด้วยการฝึกฝนอย่างเข้มข้น แก้ไขจุดอ่อนรายบุคคลและเทคนิคเฉพาะที่จะช่วยให้การสอบเป็นเรื่องง่ายขึ้น
คำถามที่พบบ่อย (FAQ) เกี่ยวกับ IELTS
IELTS เปิดสอบบ่อยไหม
เปิดสอบทุกเดือน
ศูนย์สอบ IELTS มีที่ไหนบ้าง
สนามสอบ IELTS IDP : กรุงเทพฯ ชลบุรี พิษณุโลก ขอนแก่น เชียงใหม่ เชียงราย หาดใหญ่ อุบลราชธานี ภูเก็ต สงขลา
ศูนย์สอบ IELTS British Council: กรุงเทพฯ สมุทรปราการ ปทุมธานี พิษณุโลก นครราชสีมา ขอนแก่น เชียงใหม่ ภูเก็ต
IELTS ประกาศคะแนนสอบภายในกี่วัน
ผลสอบแบบ Paper-Based จะออกหลังสอบภายใน 13 วัน ส่วนผลสอบแบบ Computer-Based และ Online จะออกภายใน 5 วัน
คะแนน IELTS นำไปใช้ทำอะไรได้บ้าง
ใช้ศึกษาต่อระดับมหาวิทยาลัยหลักสูตรนานาชาติในประเทศไทย มหาวิทยาลัยในต่างประเทศและใช้ในการย้ายถิ่นฐานไปในประเทศอังกฤษ ออสเตรเลีย แคนาดา และนิวซีแลนด์
คะแนน IELTS มีอายุกี่ปี
IELTS มีคะแนนสอบ 2 ปี